เมนู

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี ทรงฟังก็มีน้ำพระทัยโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ
สธุสะพระผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควรแล้ว
กัมมานานากรณปัญหา คำรบ 4 จบเท่านี้

ปฏิกัจเจววายามกรณปัญหา ที่ 5


ราชา สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการถามพระนาคเสน
องค์อรหันต์ว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้า
กล่าวไว้แก่โยมว่า พระภิกษุบรรพชาเพื่อจะดับเสียซึ่งทุกข์นี้มิให้ทุกข์อื่นปรากฏบังเกิดขึ้น นี่
แหละโยมยังสงสัย เหมือนภิกษุนั้นดับเสียซึ่งทุกข์นี้ มิให้ทุกข์อันอื่นบังเกิดได้ ด้วยคิดว่า
อาตมาจะดับทุกข์นี้จะเพียรเสียแต่เดิมที ดับทุกข์เสียให้ได้ สมฺปตฺเต กาเล ในเมื่อกาลที่จะต้อง
เพียงอีกมีมา ก็จะมิได้พยายามกระทำความเพียรต่อไป กระนี้หรือกระไร
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ได้แก่ฝ่าย
บรรพชิตคิดว่าเมื่อกาลจะต้องเพียรก็อุตส่าห์เพียรไป ถ้าเหตุมีขึ้นจะมิได้เพียรต่อไป จึง
พยายามเสียแต่แรก หวังจะมิให้พยายามต่อไป
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสให้พระนาคเสนอุปมาว่า อุปมํ ภนฺเต กโรหิ โยมยัง
สงสัยอยู่ พระผู้เป็นเจ้ากระทำอุปมาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร เปรียบปาน
เหมือนบพิตรพระราชสมภารฉะนี้ และทรงพระดำริจะใคร่เสวยอุทกังให้สบาย จึงสั่งคนทั้ง
หลายให้ขุดสระโบกขรณี ปลูกปทุมชาติลงไว้จะได้เสวยน้ำให้ทันอยาก หรือต่ออยากแล้วจึงจะ
ให้ขุดสระใหญ่ลงให้ทันเสวย จะทันเสวยหรือประการใด
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า หามิได้ โยมให้ขุดเสียก่อนแต่แรกเร่งให้กระทำไว้
ทีจะต้องประสงค์อุทกังเมื่อใด จะทันเสวยหรือประการใด
พระนาคเสนมีเถรวาจาถวายพระพรต่อไปว่า ฉันใดก็ดี ภิกษุที่เป็นบรรพชิตก็คิดว่า
เมื่อกาลที่จะได้ทุกข์เรียกว่าทุกข์อื่นจะมาถึง จึงกระทำความเพียรดับทุกข์นี้เสียแต่เดิม มิได้
กระทำความเพียรเพื่อจะดับทุกข์อันอื่นข้างหน้าต่อไป

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ ได้ทรงฟังก็ทรงพระโสมนัสตรัสว่า นิมนต์พระผู้
เป็นเจ้ากระทำอุปมาให้ภิยโยภาวะยิ่งไปกว่านี้เถิด
พระนาคเสนผู้ประเสริฐจึงถวายพระพรอุปมาว่า กึ มญฺญสิ มหาราช ขอถวายพระพร
บพิธพระราชสมภารเจ้า ยังทรงสำคัญว่ากระไรเล่า เหมือนบพิตรพระราชสมภารเจ้าฉะนี้ แล
จะใคร่เสวยเข้าสาลี จึงสั่งให้กระทำนาหวังจะให้ทันเสวย จึงให้ทำไร่ไถนาหว่านข้าวสาลีและ
ข้าวแดงต่าง ๆ ลงไว้ หวังจะให้ทันเสวย จะทันเสวยทันอยากหรือไม่
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสตอบว่า น หิ ภนฺเต จะทันเสวยทันอยากที่ไหน นะ
พระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนมีเถรวาจาว่า ข้อความนี้ฉันใดเล่า ภิกษุซึ่งบวชเข้าในพระศาสนา ก็คิดว่า
เมื่อทุกข์จะมีมาในกาลเบื้องหน้า จึงจะค่อยดับรับรองป้องกันจะทันที่ไหม จึงเพียรดับทุกข์ไว้แต่
แรกเริ่มเดิมที หวังจะได้เพียรพากให้ลำบากต่อไป มิได้กระทำความเพียรต่อทุกข์อันมีมาถึง
ในเบื้องหน้า
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้ากระทำอุปมาให้ยิ่งกว่านี้
พระนาคเสนองค์อรหาธิบดี จึงถวายพระพรอีกเล่าว่า กึ มญฺญสิ มหาราช พระราช-
สมภารเจ้า จะทรงพระวิตกสำคัญกระไรเล่า เหมือนพระราชสมภารเจ้ากระทำการป้องกัน
ข้าศึกสงคราม จะกระทำเสียแต่ยังไม่มีข้าศึกมาหรือ หรือต่อมีข้าศึกมากระทำสงครามจึงคิด
อ่านให้กระทำกำแพงค่ายคูประตูหอรบเชิงเทินต่าง ๆ ทำฉางข้าวฉางปลา ฝึกช้างฝึกม้า หรือ
เป็นประการใด
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า หามิได้ โยมก็จัดแจงไว้แต่เดิม
พระนาคเสนถวายพระพรว่า ถึงบรรพชิตก็เพียรกระทำกิจเสียแต่เดิมเหมือนกัน อนึ่ง
เล่า สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าก็ตรัสพระสัทธรรมเทศนาไว้ฉะนี้
ปฏิกจฺเจว ตํ กยิรา ยํ ชญฺญา หิตมตฺตโม
น จ สากฏิจิตฺเตน มนฺตา ธีโร ปรกฺกโม ฯ
ยถาปิ สากฏิโก นาม ปนฺถํ สมํ หิตฺวา มหาปถํ
วิสมํ มคฺคมารุยฺห อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายติ ฯ
เอวํ ธมฺมา อปกฺกมฺม อธมฺมํ อนุตฺติยา
มนฺโท มจฺจุมุขปฺปตฺโต อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายตีติ ฯ

พระพุทธฎีกาโปรดว่า ธรรมดาบรรพชิตรู้ว่ากิจสิ่งไรจะให้ทุกข์ ก็พึงพากเพียรให้
สำเร็จกิจเสียแต่เดิม อย่าดูเยี่ยงชาวเกวียนที่ทิ้งทางเก่าเสีย เข็นไปทางใหม่ไม่เสมอ เกวียนก็หัก
เพลาก็หัก ตัวก็ซบเซาอยู่ ดุจพระโยคาวจรภิกษุไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร จึงให้เร่งเพียรไว้แต่เดิม
พระเจ้ากรุงมิลินท์ได้ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า สมควรแล้ว พระผู้เป็นเจ้าอุปมาในกาลบัดนี้
ปฏิกัจเจววายามกรณปัญหา คำรบ 5 จบเท่านี้

ปกติอัคคิโต นิรยัคคีนัง อุณหาการปัญหา ที่ 6


ราชา

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าว่าไว้กับโยมว่า ไฟเป็นปรกตินี้ร้อนเป็นประมาณ ไฟในนรกนี้
ร้อนกล้าหาญกว่าไฟในมนุษย์ อนึ่งเล่า มาตาว่าบุคคลจะเอาก้อนศิลาอันน้อยใหญ่ใส่ลงไปใน
เพลิงอันเป็นปกตินี้วันยังค่ำ น วิลิยํ คจฺฉติ ก็มิได้ยับย่อยไป บุคคลจะเอาศิลาใหญ่ประมาณ
เท่ากูฏาคารปราสาทใส่เข่าไปในไฟนรกนั้นไม่ทันถึงวัน แต่ขณะเดียวก็ย่อมไป น สทฺทหามิ
โยมจะได้เชื่อคำคำนี้หามิได้ ด้วยสัตว์ในนรกเพลิงไหม้อยู่ถึงพันปีก็มิได้ยับย่อมไป เหตุดังนี้
โยมจะเชื่อก็หามิได้
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า กึ มญฺญสิ มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราช-
สมภาร พระราชสมภารสำคัญอย่างไร บพิตรพระราชสมภารดำริเข้าพระทัยบ้างหรือไม่ว่า
สัตว์ทั้งหลายคือไก่และนกยูงมังกรปลาฉนากปลาฉลามและเต่า สัตว์เหล่านี้กินกรวดและก้อน
ศิลาละเอียดและหยาบ บพิตรได้ยินเขาเล่าบ้างหรือไม่
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า เออ โยมได้ยินเขาว่าอยู่ นะพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรถามอีกเล่าว่า บพิตรพระราชสมภารเข้าพระทัยหรือไม่ว่า
กรวดหินที่สัตว์เหล่านั้นกินตกเข้าไปถายในลำไส้นั้นจะย่อยยับเป็นคูถไปหรือไม่เล่า
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสรับคำไปว่า เออ พระผู้เป็นเจ้า ก้อนกรวดก้อนหินที่
สัตว์กินเข้าไปถึงภายในไส้แล้วก็ย่อยยับไป
พระนาคเสนถามว่า ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร สัตว์ที่ปฏิสนธิในครรภ์แห่งสัตว์
ทั้งหลายเหล่านี้จะย่อมยับไปด้วยหรือประการใด